SEO 2022 รองรับ Algorithm ใหม่จาก Google

SEO 2022 รองรับ Algorithm ใหม่จาก Google

SEO หรือ Search Engine Optimize เป็นการทำเว็บที่มีคุณภาพให้สามารถติดหน้าอันดับการค้นหาของ Search Engine ยอดนิยมอย่าง Google ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทาง Google เองก็มีการปรับเปลี่ยน Algorithm อยู่ตลอดเวลา เพื่อคัดกรองเว็บไซต์ที่ดี มีคุณภาพให้ติดอันดับหน้าค้นหา ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนกฎและวิธีการอยู่ตลอดเวลา คนทำเว็บ หรือเจ้าของธุรกิจเองหากต้องการให้เว็บไซต์ของตนเองติดอันดับหน้าค้นหาในลำดับต้น ๆ จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาภายในเว็บให้สดใหม่และสอดคล้องกับ Algorithm ของ Google ได้อย่างเหมาะสม

Google MUM, Ai ตัวใหม่จาก Google ตัวแม่ของวงการ Search Algotithm

MUM หรือ Multitask Unified Model คือ Ai ตัวใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและอัปเกรดจาก Google เพื่อช่วยให้สามารถทำความเข้าใจในข้อมูลที่ถูกค้นหาและเข้าใจความหมาย คำถามที่ซับซ้อนจากผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้า Ai MUM ตัวใหม่นี้มีความสามารถมากกว่า BERT ถึง 1000 เท่า จึงไม่แปลกใจเลยหากพบว่าการค้นหาที่ผ่านมาในช่วงต้นปี 2022 ถึงถูกใจบรรดาผู้ใช้งานจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนมือถือ android อย่าง google lens เพียงแค่ถ่ายรูปก็สามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน google ได้แล้ว

การค้นหาด้วยเสียงจะเพิ่มมากขึ้น

การใช้เสียงในที่นี้หมายถึงฟังก์ชันการพูดผ่านไมค์มือถือ เพื่อให้ google ค้นหาสิ่งของ สถานที่ จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถยืนยันจากสถิติเว็บไซต์ PWC ได้ถึงข้อมูลของคนที่ใช้เสียงในการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 71% ยิ่งได้ Ai MUM เข้ามายิ่งช่วยให้การค้นหาผ่านเสียงที่มีประโยคยาว ๆ ทำได้ง่ายและเป็นธรรมชาติขึ้น

หลักการ E-A-T ของ Google จะติดแรงค์ที่ดีกว่า

E-A-T มาจาก Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness คือ การทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ของคนที่เข้ามาใช้งาน สามารถแก้ไขปัญหาได้จากประสบการณ์จริงและมีความน่าเชื่อถือ สามารถอ้างอิงแหล่งที่มาได้ จะทำให้เว็บไซต์ได้รับคะแนน E-A-T เพิ่มขึ้นและได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น เพราะการทำ SEO ไม่ใช่แค่เพียงให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับค้นหาที่ดีเท่านั้น แต่รวมถึงการพัฒนาให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับที่ดีขึ้นไปอีก

SUB KEY มีความสำคัญไม่แพ้ MAIN KEY

การทำเว็บไซต์ที่อาศัยแต่เพียง KEY WORD หลักเหมือนที่ผ่านมา คาดว่าคงไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน ดังนั้น คีย์รอง หรือ SUB KEY จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความอัจฉริยะของ Ai ตัวใหม่จาก Google ที่ไม่เพียงแต่วิเคราะห์ KEY WORD ได้แล้ว ยังสามารถวิเคราะห์ทั้งประโยคที่คนต้องการค้นหาได้อีกด้วย ดังนั้นในการใส่ KEY เข้าไปในบทความ อย่าลืมมองหา KEY รองที่มีเนื้อหาใจความที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ใส่เข้าไปให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ก็จะได้เปรียบมากขึ้น

VIDEO จะมีส่วนในการทำ SEO มากขึ้น

จะเห็นว่าในปัจจุบันเวลาที่เราค้นหาผ่าน google มักจะมีเนื้อหาที่เป็น video สอดแทรกขึ้นมาในหน้าค้นหาเสมอ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตกเทรน อย่าลืมช่องทางในการทำ SEO ผ่านผู้ให้บริการ VIDEO ออนไลน์เอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Facebook หรือ TikTok ที่กกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

การทำ SEO ในปัจจุบันไม่เพียงแต่เพื่อการตลาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คนจำนวนมาก หากคุณสามารถจับทางได้ถูกรับรองได้เลยว่าคุณจะพบกับผลลัพธ์ที่สุดแสนประทับใจอย่างแน่นอน

เทคนิคการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพที่สุด

เทคนิคการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพที่สุด

หลักการพื้นฐานในการทำ SEO ถือว่าคีย์เวิร์ดเป็นส่วนสำคัญ โดยใส่คีย์เวิร์ดลงไปในเว็บไซต์และในบทความเพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายค้นพบเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว ดึงดูดคนจำนวนมากเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมถึงทำให้ผลลัพธ์การจัดอันดับขยับไปอยู่ในลำดับต้นๆ ของ Google อีกด้วย มาดูกันว่าเทคนิคการเลือกใช้คีย์เวิร์ดทำให้การค้นหามีประสิทธิภาพที่สุดต้องทำอย่างไรบ้าง

เจ้าของธุรกิจต้องทำการบ้านอย่างหนักเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ผู้คนใช้คำค้นหาในเสิร์จเอ็นจินแตกต่างกันไป ควรพิจารณาเลือกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ รู้ว่าอะไรควรเป็นคีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรอง มีคำมากมายที่ดึงดูดคนเข้ามาเยี่ยมชม แต่คำเหล่านี้อาจไม่ตรงกับเว็บไซต์ของเราก็ได้ ควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้องโดยมองหาเอกลักษณ์ของสินค้าหรือบริการ ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าคีย์เวิร์ดไหนมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการ เพื่อสร้างความโดดเด่นชัดเจนทำให้ลูกค้าสามารถค้นพบข้อมูลที่ต้องการในเว็บไซต์ง่ายดายและรวดเร็ว จากนั้นเลือกคำบรรยายสั้น ๆ อธิบายข้อมูลของสินค้าหรือบริการลงในโซเชียลมีเดียสำหรับคนที่ต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม

การหา คีย์เวิร์ด มีความสำคัญมาก

ในกรณีที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้คีย์เวิร์ดแบบไหน ลองดูเว็บไซต์ของคู่แข่งทางธุรกิจว่าใช้คำค้นหาอะไรบ้าง และใช้เครื่องมือแนะนำคีย์เวิร์ดช่วยค้นหาคำและวลีมากมายที่มีประโยชน์ หรือใช้สถิติอ้างอิงว่าคีย์เวิร์ดไหนช่วยในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ สามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์จำนวนมากในแต่ละวัน ปริมาณการเข้าใช้งานอาจเพิ่มปริมาณยอดขายในเว็บไซต์ก้าวไปสู่อีกระดับ นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ควรใช้ SEO ทำให้คำค้นหาให้ติดอันดับใน Google

อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ของ SEO ไม่เหมือนกับการโฆษณา กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลานานหลายเดือน เจ้าของธุรกิจต้องเฝ้าติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ว่าคีย์เวิร์ดที่เลือกนั้นทำงานเป็นอย่างไร โดยมีวิธีวิเคราะห์หลายรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์ด้วย Logs File ตรวจสอบและติดตามผลว่าผู้เข้าชมใช้คีย์เวิร์ดคำไหนในการค้นหามาถึงเว็บไซต์นั้น และสามารถใช้ Google Analytics ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของลูกค้าว่าค้นหาอะไรและใช้คำไหนบ่อย สามารถนำมาปรับปรุงคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการทำ SEO ให้มีผลลัพธ์ดีขึ้น ทำให้รู้ว่าไม่มีคีย์เวิร์ดไหนตายตัว ถ้ามีคำที่ดีกว่าก็อาจนำมาอัปเดตข้อมูลได้เหมือนกัน นอกจากใส่คีย์เวิร์ดลงไปในเว็บไซต์แล้วอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดเป็นคำแรกของ Title Tag ซึ่งจะอธิบายว่าเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร รวมถึงใส่คำสำคัญลงไปในชื่อบทความ หัวข้อย่อย และเนื้อหาบทความอีกด้วย

การหา คีย์เวิร์ด มีความสำคัญมาก

ทุกวันนี้มีเว็บไซต์ธุรกิจมากมายบนอินเทอร์เน็ต หากธุรกิจและบริการนั้นมีการแข่งขันสูง การทำ SEO จึงเป็นเครื่องมือทำให้แบรนด์โดดเด่นจากคู่แข่ง ใช้เงินลงทุนน้อยช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ก้าวไปสู่จุดสูงสุดบน Google จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจ สามารถเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ให้มากเกินคุ้ม