ไม่อยากให้อันดับ SEO ตกหลังจากการเลิกจ้าง ต้องอ่าน

ปัญหาใหญ่ที่มักเกิดขึ้นจากการจ้างบริษัท

การทำ SEO หรือ search engine optimization เป็นสิ่งที่ช่วยให้เว็บไซต์ทางธุรกิจเติบโตได้เร็ว เพราะสืบค้นเจอได้ง่ายจากช่อง Google search มากขึ้น ทำให้มียอดขายสินค้าที่ดีตามมา

การทำ SEO นอกจากการทำด้วยตัวเองแล้ว สามารถที่จะเลือกบริษัทรับจ้างทำ SEO ได้โดยมักมีสัญญาระยะ 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นไป ซึ่งจะสอดคล้องกับหลักในการทำ SEO ที่ต้องมีการสะสมข้อมูลอย่างต่อเนื่องให้ระบบอัลกอรึทึ่มของ Google มาประมวลผล

ปัญหาใหญ่ที่มักเกิดขึ้นจากการจ้างบริษัทรับทำ SEO ที่ขาดจรรยาบรรณคือ หลังจากการเลิกจ้างทำ SEO จะทำให้อันดับการสืบค้นต่ำลงมากในเวลาไม่นาน ทำให้กระทบต่อโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย และส่งผลให้ตัวเลขยอดขายและกำไรทางธุรกิจย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ

ที่เป็นเช่นนั้น เพราะบริษัทที่ขาดจรรยาบรรณในการทำงานให้ลูกค้าจะใช้วิธีทำ SEO ที่ไม่ตรงไปตรงมา มีการปั่น คีย์เวิร์ด หรือทำ Spam ทำให้ค่าอันดับ SEO สูงขึ้นเกินจริงในช่วงเวลาอันสั้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในระยะหลังเมื่อใกล้จะเลิกจ้างงาน ได้แก่

1. การจัดการที่ Backlink

การทำ Backlink คือ การเชื่อมโยงเว็บไซต์ของคุณไปยังเพจหรือเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่ม traffic ให้เว็บไซต์ได้มากขึ้น หากบริษัทที่ทำ SEO ใช้วิธีทำลิงก์กับเพจที่มีการซื้อขายกันแบบผิดกฎของ Google หรือเป็นลิงก์ที่คุณภาพต่ำ เมื่อหยุดการทำ SEO ก็จะทำให้อันดับตกลงไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ อาจเกิดจากการที่บริษัททำ SEO นำลิงก์ที่เคยทำไว้ออกจากการเชื่อมโยงทั้งหมด ทำให้ก็จะส่งผลให้อันดับ SEO ตกลงอย่างรวดเร็ว หลังการสิ้นสุดสัญญาจ้างงานได้

2. การสร้างไฟล์มาปิดกั้นการเก็บข้อมูลจาก Google

นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จะรู้ว่าการเขียนไฟล์ robots.txt จะป้องกันไม่ให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์ได้ หากบริษัทที่ทำ SEO สร้างไฟล์นี้ขึ้นมา ก็เท่ากับเว็บไซต์ของคุณจะไม่สามารถสืบค้นได้จากช่อง Search Google อย่างแน่นอน จึงทำให้อันดับ SEO ตกลงอย่างรวดเร็ว

เทคนิคที่กล่าวมาของบริษัทรับจ้างทำ SEO ที่ขาดจรรยาบรรณ เป็นสิ่งที่สร้างผลเสียอย่างมากต่อธุรกิจออนไลน์ของผู้ที่เคยว่าจ้าง ทำให้สูญเสียโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจกับแบรนด์สินค้าคู่แข่งด้วย ดังนั้น ก่อนการเลือกจ้างบริษัททำ SEO ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือของบริษัท มีเอกสารยืนยันการจดทะเบียนบริษัท มีผู้รับผิดชอบที่มีประวัติดี ไม่เคยถูกดำเนินคดี หรือมีการกล่าวถึงในแง่เสื่อมเสีย ซึ่งโดยทั่วไป สามารถดูข้อมูลการรีวิวบริษัททำ SEO จากคนที่แบ่งปันประสบการณ์ในเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น พันทิป เว็บบล็อกต่าง ๆ หรือ Facebook หรือเลือกบริษัทที่มีการแนะนำจากคนใกล้ตัวที่ไว้ใจได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการจ้างบริษัทที่ขาดจรรยาบรรณ

ไม่อยากให้อันดับ SEO ตกหลังจากการเลิกจ้าง ต้องอ่าน

SEO กับ SEM ทำควบคู่กันได้หรือไม่ มือใหม่ขายของออนไลน์อยากรู้

SEO กับ SEM ทำควบคู่กันได้หรือไม่ มือใหม่ขายของออนไลน์อยากรู้

SEO และ SEM เป็นเทคนิคการตลาดที่กูรูด้านการขายสินค้าออนไลน์กล่าวถึงไว้อย่างมากมายในช่วง 2-3 ปีมานี้ นักธุรกิจหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย ที่เพิ่งเข้ามาในวงการขายสินค้าออนไลน์ อาจยังสงสัยว่าทั้ง SEO และ SEM นั้น ต่างกันอย่างไร ทำควบคู่กันได้หรือไม่ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันไว้ที่นี่ ดังนี้

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization

เป็นการพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะส่วนของพื้นฐานเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าผู้ใช้งาน และรวมถึงการผลิตบทความ SEO ที่มีคุณภาพ ในส่วนของโครงสร้างเว็บไซต์ ต้องออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายทั้งระบบคอมพิวเตอร์และมือถือ เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้เครื่องมือสื่อสารของผู้คนยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็มีการออกแบบหน้าตาของแต่ละเพจให้มีรูปลักษณ์ที่จดจำได้ง่าย เช่น ติดโลโก้ที่สวยงาม มีธีมสีสันที่สื่อสารถึงแบรนด์สินค้าได้ดี ใช้ตัวอักษรที่ออกแบบใหม่เฉพาะแบรนด์ ฯลฯ

ที่สำคัญคือ การผลิตบทความที่มีคุณภาพ โดยใช้ Keyword SEO เป็นแกนหลัก ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ต้องทำการวิจัย หา Keyword ที่เหมาะสมและตรงกับที่กลุ่มเป้าหมายใช้พิมพ์ค้นหาในกล่องเครื่องมือค้นหาของ Google, Bing และ Yahoo หากผลิตบทความ SEO ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ จะทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อมีการค้นหา จากผลการประมวลและจัดอันดับ SEO ของระบบอัลกอริทึมของ Search Engine นั้น ๆ

ส่วน การสร้าง BackLink เชื่อมโยงเว็บไซต์ของคุณกับเว็บไซต์ภายนอกในโลกโซเชียล เช่น เชื่อมกับเพจใน Facebook หรือสังคม Pantip ก็เป็นเทคนิค SEO ที่นิยม และช่วยในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน

การทำ SEM หรือ Search Engine Marketing

เป็นการซื้อพื้นที่โฆษณา เพื่อให้มั่นใจว่าแบรนด์ของคุณจะถูกนำเสนออยู่ในหน้าต่างการสืบค้นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เมื่อกลุ่มเป้าหมายพิมพ์หาโดยใช้ Keyword ที่ตรงกับที่คุณระบุ การทำ SEM จะมีค่าใช้จ่ายแบบ PPC หรือ Pay Per Click เมื่อมีการคลิกลิงก์จากหน้าโฆษณาไปที่เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งคุณจะต้องชำระเงินให้แก่ Search Engine ตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม หากมีการคลิกแล้วไม่เกิดการซื้อขาย ก็เท่ากับเป็นต้นทุนที่คุณต้องจ่าย โดยไม่ได้ขายสินค้านั่นเอง

โดยหลักการแล้ว การขยายแบรนด์ในช่วงเวลาอันสั้น ด้วยการทำ SEM ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก และเหมาะกับช่วงที่คุณต้องกำลังทำโปรโมชั่น ขายสินค้ารุ่นใหม่ หรือ ตรงกับช่วงเทศกาลอย่าง ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ คริสต์มาส เป็นต้น

ด้วยเหตุที่กล่าวมา การทำ SEO และ SEM จึงเป็นสิ่งที่สามารถทำควบคู่กันได้ ขอเพียงคุณใส่ใจการใช้ Keyword ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสม รู้จักจังหวะเวลาที่ควรใช้แต่ละเทคนิค ก็จะช่วยส่งเสริมการขายซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดีแน่นอน

v

ขั้นตอนการทำ SEO อย่างง่าย อยากขายดีในโลกออนไลน์ต้องอ่าน

ขั้นตอนการทำ SEO อย่างง่าย มีดังนี้

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการตลาดที่ไม่ต้องจ่ายค่าพื้นที่โฆษณาอย่างการทำ SEM หรือ Search Engine Marketing ผู้ที่ทำธุรกิจในโลกออนไลน์จึงควรศึกษาขั้นตอนการทำ SEO และนำไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนการทำ SEO อย่างง่าย มีดังนี้

1. การหา Keyword ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตบทความ โดยเลือก Keyword จากการจากผลสถิติใน Google ที่กลุ่มคนเป้าหมายใช้พิมพ์เพื่อหาร้านค้าออนไลน์ที่น่าสนใจ การใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้ผลิตบทความจะทำให้อันดับ SEO ในหน้าต่างการค้นหาสูงขึ้น มีโอกาสปรากฏให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

2. ใช้ Keyword หลักมาตั้งหัวข้อที่น่าสนใจ จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการถูกคลิกเข้ามาชม เพิ่มค่า CTR หรือ Click Through Rate ได้ มีโอกาสให้ขยายฐานลูกค้าที่จะมาเลือกใช้บริการหรือซื้อสินค้าได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

3. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้สวยงามและใช้งานง่าย ส่วนนี้อาจศึกษาด้วยตัวเองหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย หรือปรึกษากับนักพัฒนาเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์ ตัวอย่างเช่น การจัดหมวดหมู่สินค้าที่ชัดเจนแยกจากการโฆษณา และส่วนการติดต่อกับทีมงานบริหารเว็บไซต์

4. มีการใช้ AI ในการตอบคำถาม หรือ Chatbot จะช่วยให้เพิ่มภาพลักษณ์ที่ดี ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นในสายตาลูกค้า จะทำให้ยอดขายสูงขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

5. ออกแบบโลโก้ ตัวอักษรและธีมสีให้มีความเป็นเอกลักษณ์ นอกจากบทความต้องมีคุณภาพแล้ว การมีโลโก้ที่สวยงามจดจำง่าย ตลอดจนตัวอักษรและสีที่แตกต่างจากเว็บอื่นเป็นสิ่งสำคัญ จะเป็นเทคนิคที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการใช้สินค้า

6. ทำลิงก์หรือ Backlink เพื่อการขยายฐานลูกค้า เพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้รู้จักเว็บไซต์ของคุณด้วย วิธีการทั่วไปที่ใช้การคือการเข้าไปอยู่ในวงสนทนาในโลกโซเชียล เพื่อให้เรียนรู้ปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ใช้สินค้าที่คุณจำหน่ายขณะเดียวกัน คุณก็สามารถให้ข้อเท็จจริงและแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ได้ หากมีผู้ที่สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มหรือซื้อสินค้า จะได้ติดต่อไปที่เว็บไซต์ของคุณได้

7. การทำเว็บไซต์ SEO แบบหลายภาษาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจของคุณไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นการท่องเที่ยวและการโรงแรม ซึ่งควรมีผู้ทำหน้าที่ตอบคำถามจากลูกค้าต่างชาติด้วยความเป็นมืออาชีพและมีความจริงใจให้บริการ จะทำให้ได้รับยอดการสั่งซื้อ สั่งจองสินค้าและบริการจากผู้คนได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

จะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการทำ SEO มีหลายองค์ประกอบที่สามารถทำควบคู่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดแนะนำว่าหากทำ SEO ให้เว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ แม้ต้องใช้เวลา 3 ถึง 6 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล แต่ก็คุ้มค่าทั้งด้านฐานลูกค้าและยอดขายที่เพิ่มขึ้นและมั่นคงในระยะยาว

ขั้นตอนการทำ SEO อย่างง่าย อยากขายดีในโลกออนไลน์ต้องอ่าน

หลักในการทำ SEO Off Page อีกหนึ่งหลักสำคัญผ่านการทำ SEO

หลักในการทำ SEO Off Page อีกหนึ่งหลักสำคัญผ่านการทำ SEO

หลักในการทำ SEO ให้ดีอย่างมีคุณภาพ จำเป็นจะต้องเลือกใช้หลักในการทำ SEO แบบสากล หรือยึดหลักตามทฤษฎีเบื้องต้นที่มีมา ซึ่งประกอบไปด้วยกระบวนการในการทำ SEO ถึง 2 ช่องทางด้วยกัน ได้แก่ การทำ SEO On page และ การทำ SEO Off page นั่นเอง ซึ่งในส่วนของการทำ SEO On page นั้น เปรียบเสมือนว่าคุณได้ทำการปรับแต่งคุณภาพภายในเว็บไซต์ให้ดูดียิ่งขึ้น แต่การทำ SEO Off page นั้น เป็นการเลือกใช้ปัจจัยภายนนอกเพื่อที่จะช่วยเหลือในการโปรโมทเว็บไซต์ให้กับคุณ เพราะฉะนั้น การทำ SEO Off page จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดูไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้ทำจะต้องใส่ใจในเรื่องของคุณภาพเป็นหลักให้ได้อย่างแท้จริงด้วย ด้วยหลักในการทำ SEO Off page มีดังนี้

หลักในการทำ SEO Off Page อีกหนึ่งหลักสำคัญผ่านการทำ SEO

จริง ๆ แล้วการทำ SEO Off Page เปรียบเสมือนว่าเราได้สนับสนุนและผลักดันในมีคนมารู้จักเว็บไซต์ของเราได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยที่เราจะต้องอาศัยปัจจัยภายนอกของเว็บไซต์ เพื่อที่จะเข้ามาช่วยเหลือในการโปรโมท และอีกทางหนึ่งก็คือการสร้าง Traffic ซึ่งจะต้องดีและมีคุณภาพเท่านั้น เมื่อมาถึงจุดนี้คุณจำเป็นจะต้องรู้จักกับคำ ๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ Backlink นั่นเอง

และเมื่อพูดถึง Backlink หลายคนก็อาจจะกำลังสงสัยว่าคำ ๆ นี้มันคืออะไร และหมายถึงอะไรกันแน่ ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า Backlink คือ การที่เราได้ทำลิงค์ขึ้นมาเพื่อที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะทำลิงค์เพื่อเชื่อมไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ โดยยึดหลักในการอ้างอิง หรือถือได้ว่าเป็นการแชร์ลิงค์ออกไปเพื่อที่จะแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักและเข้ามาอ่านบทความเหมือนกับเรา ส่งผลทำให้ทางด้าน google นั้นได้มองเห็นว่า Backlink กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการโหวต หากเว็บไซต์ไหนมี Backlink เป็นจำนวนมาก เว็บไซต์นั้น ๆ ย่อมมีคุณภาพและผู้คนพูดถึงมากที่สุด

และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คนทำ SEO ส่วน พยายามที่จะทำ Backlink ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่าจะส่งผลดีต่ออันดับได้ในที่สุด แต่ในทางกลับกันหากคุณทำออกมาไม่ดี ไม่มีคุณภาพ เราขอบอกเลยว่าคุณอาจจะถูกทาง google ลงโทษอย่างหนักหน่วงเอาได้

หลัก ๆ ของการทำ SEO Off page เปรียบเสมือนเป็นการหา Backlink ที่จะส่งผลดีต่อการทำ Traffic ได้ ซึ่งคุณภาพผ่านการทำ Backlink นับได้ว่ามีความสำคัญอย่างมาก การที่มีคนจำนวนมากเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรา ส่งผลทำให้เว็บไซต์ของเรามี Traffic เยอะ ทาง google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพพร้อมทั้งให้การยอมรับ สุดท้ายก็มีอันดับดี ๆ ตามมา